ทั้งหมดเป็นบทความที่แต่งขึ้นเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ดั่งดอกไม้ช่อใหญ่ที่มอบให้คุณ

….เริ่มต้นดี แต่จบไม่สวย

 
คืนนี้ฝนตกหนักมาก และไม่มีท่าทางจะหยุด มันตกตรงเวลาทุกวัน บางคนไม่ชอบ อาจจะกลัวความเฉอะแฉะ กลัวน้ำท่วมโลก กลัวเขื่อนแตก กลัวนอนหนาว กลัวไม่สบาย และอีกหลายเหตุผล อารมณ์ และความรู้สึก ที่มีต่อฝนเม็ดเล็กๆ

 

ใครจะยังไงก็ช่าง ผมกับชาวนาชอบฝน คนอื่นผมไม่รู้เขา

ฝนล้านๆ เม็ดกำลังดิ่งจากฟ้าสู่ดิน ผมยืนพิจารณาฝนแต่ละเม็ด
กระบวนการเกิดฝน เท่าที่จำได้ตอนเรียน ป.4 มีหลายขั้นตอน มันไม่ง่ายเหมือนตอนทดลองวิทย์ ต้มน้ำใส่กาแล้ววางบนเตาแก๊ส แล้วรอดูมันระเหยเป็นไอ  มันมีขั้นมีตอนของมัน น้ำบนดินระเหยขึ้นไปสู่เบื้องบน กลายเป็นเมฆ ควบแน่น มีมวลอากาศสูง ต่ำ มาร่วมเป็นตัวแปร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง                          ที่สุดเราก็เห็น “สายฝน”
 
สัจธรรมของฝน ทุกเม็ดร่วงสู่ผืนดินหมด ไม่มียกเว้น เพียงแต่จะช้าก็เร็วกว่ากันก็เท่านั้น บ้างตกบนถนน บ้างบนต้นไม้ บ้างตกบนหลังคาบ้าน บ้างตกบนสนามฟุตบอล สุดท้ายฝนเม็ดงามก็เป็นเพียงโคลนขุ่นๆ

 

ก็เพราะโคลนขุ่นๆ ที่ทำให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ ต้นไม้เติบโต ควายมีหญ้ากิน นกเอี้ยงได้เป็นเพื่อนกับควาย แถมมีโปรโมชั่นได้กินหนอนกินแมลงฟรี โดยไม่ต้องบินไปไหนให้ล้าปีก

บางที่สิ่งไร้ค่า ช่วยสรรสร้างโลกได้มากกว่า สิ่งที่มีค่า

ที่สุดชีวิต ก็เป็นเหมือน ฝน จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องอยู่กับดิน แตกต่างตรงที่ ทำให้ชีวิตจบสวยได้ แม้แต่เลือกจบไม่สวยแต่ก็ยังสวย มีคุณค่าต่อชีวิตคนอื่น

…ผมยืนพิจารณาฝนที่เดิมยังไม่ไปไหน แต่ชีวิตเดินก้าวไปหนึ่งก้าวก็เพราะ

บทเรียนจาก “สายฝน”

     …ช่อดอกเข็มสีแดงสดถูกตัดอย่างปราณีตบรรจง ในไม่ช้าหญ้าแพรกเขียวขจีพริ้วตามลมกลางพงและดอกมะเขือที่โน้มช่อลงมาอย่างนบนอบ ก็รับชะตากรรมเดียวกันไม่ต่างจากดอกเข็ม ทั้งหมดถูกมัดช่อรวมเป็นหนึ่ง ช่อดอกไม้หลากสีสันสวยสดจัดเตรียมไว้เพื่อบูชาใครบางคน

หนุ่มสาวชาวราชภัฏ ตั้งหน้าตั้งตาฝึกปรือวิชาการและวิชาชีวิต โดยมีความหวังตั้งมั่นบนอุดมการณ์และจิตวิญญาณ “ครู” มันเป็นเพียงก้าวแรกของเส้นทางอุดมการณ์ ก้าวต่อไปนับจากนี้ จะต้องเจอความชนะ ความพ่ายแพ้ ดีใจ ท้อแท้ มีกำลังใจ สิ้นหวัง สำเร็จ ล้มเหลว มันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ “ครูคือปุถุชนผู้กล้าเดินตามอุดมการณ์ เคียงบ่าเคียงไหล่ คอบโอบอุ้ม ประคับประคองศิษย์”

     สิบนิ้วประนม กราบแทบเท้าครู ด้วยความรู้คุณ คำพูดไม่อาจบรรยาย ช่อดอกไม้สีสันสวยสดที่จัดเตรียมไว้เพื่อบูชา สบทบกับธูปและข้าวตอกแฝงนัยความหมาย เป็นตัวแทนของคำพูดขอขมา ถูกวางไว้ในมือของครู น้อยครั้งที่เห็นครูเป็นผู้รับเช่นวันนี้ เพราะตลอดชีวิตครู มีแต่ให้

     โดยเฉพาะความรู้และไม้เรียว เพราะครูกับไม้เรียวเป็นสิ่งคู่กันเสมอ ช่องว่างระหว่างครูกับไม่เรียวแทบจะไม่มี ดูเหมือนว่าทั้งสองเข้ากันได้ดี บ่อยครั้งไม้เรียวถูกยกขึ้นไปบนอากาศ เสียงไม้แหวกมวลอากาศ เป็นเสียงที่ไม่มีใครอยากได้ยิน ไม่ถึงเสี้ยววินาทีเสียงไม้กระทบเนื้อ ตามมาด้วยความเจ็บปวดปนแสบๆ ช่วงวัยเด็กเล็กเกินกว่าจะเข้าใจว่า ทุกกระบวนท่าตั้งแต่ง้างไม้เรียว มันคือความรักและหวังดี มิตรภาพที่ยากจะลืมเลือนระหว่างครูกับศิษย์เริ่มต้นตรงจุดนี้ โดยมีไม้เรียวเป็นสื่อกลาง สื่อสารความรักบริสุทธิ์

      ในความเป็นจริงแล้ว ครูคือผู้ให้การศึกษา ซึ่งการศึกษาที่ครูให้ไม่ใช่ความรู้จนสำเร็จปริญญาบัตร หากคือความสามารถที่ยกระดับของปัญญา และปัญญานั้นไม่ใช่เป็นเพียงความคิดเท่านั้น หากคือความเมตตาด้วย ดังนั้นการศึกษาที่ครูให้จึงไม่ใช่การพัฒนาแต่เพียงสมองส่วนเดียว หากเป็นการยกระดับจิตใจและวิถีชีวิต ให้รู้จักและเห็นคุณค่าคำว่า คน

     ละครหลังข่าว เพิ่งอวสารไม่นานมานี้ ความชื่นชอบประทับใจมีอยู่ แต่มันเริ่มจะเลือนราง ไม่นานเราก็ลืม แต่ละครชีวิตฉากหนึ่ง มีครูเป็นผู้กำกับ คอยชี้นำอบรมเพื่อให้เราเป็นนักแสดงที่เก่งเล่นสมบทบาทในฉากหน้าของชีวิต เราไม่เคยลืมฉากนั้นเลย แม้มันจะเป็นละครฉากสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความประทับใจ มีทั้งสนุกปนเศร้า มันอวสารนานแล้ว แต่เราก็ยังจำได้ดี โดยไม่มีทีท่าว่าจะลืมเลือน

     ครูคือใคร และใครคือครู หากได้ร่วมประสบการณ์ชีวิตกับครู ในช่วงวัยไปโรงเรียน ไม่ต้อง เสิร์ช หาความหมายในกูเกิล ความทรงจำที่ดีจะเป็นตัวหาคำตอบ ครูก็คือ “ครู” เพราะคำว่าครู เป็นคำสั้นๆ มีความหมายเป็นล้านๆความหมายซ่อนอยู่ ความหมายที่ซ่อนอยู่เป็นแรงพลังขับเคลื่อนมหาศาลให้ศิษย์ทุกคน ประสบความสำเร็จในชีวิต อย่างไรก็ตาม “โลกต้องการครู” ไม่ว่าจากนี้อีกกี่สิบ กี่ร้อยปี ก็ยังต้องการ ในสมัยโลกแห่งเทคโนโลยี หลายสิ่งถูกผลักดันให้มารับหน้าที่เป็นครูอิเล็คทรอนิค มันก็ทำหน้าที่สื่อสารวิทยาการได้ดีไม่แพ้ครู อย่างไรก็ตาม ไม่มีสื่ออะไรจะมาแทนที่ครูได้ เพราะไม่มีสิ่งไหนในโลกนี้ที่สามารถสอนให้เรา รัก รู้จักความหมายและเห็นคุณค่าของคำว่า “คน”