คืนนี้ฝนตกหนักมาก และไม่มีท่าทางจะหยุด มันตกตรงเวลาทุกวัน บางคนไม่ชอบ อาจจะกลัวความเฉอะแฉะ กลัวน้ำท่วมโลก กลัวเขื่อนแตก กลัวนอนหนาว กลัวไม่สบาย และอีกหลายเหตุผล อารมณ์ และความรู้สึก ที่มีต่อฝนเม็ดเล็กๆ
ใครจะยังไงก็ช่าง ผมกับชาวนาชอบฝน คนอื่นผมไม่รู้เขา
ฝนล้านๆ เม็ดกำลังดิ่งจากฟ้าสู่ดิน ผมยืนพิจารณาฝนแต่ละเม็ด
กระบวนการเกิดฝน เท่าที่จำได้ตอนเรียน ป.4 มีหลายขั้นตอน มันไม่ง่ายเหมือนตอนทดลองวิทย์ ต้มน้ำใส่กาแล้ววางบนเตาแก๊ส แล้วรอดูมันระเหยเป็นไอ มันมีขั้นมีตอนของมัน น้ำบนดินระเหยขึ้นไปสู่เบื้องบน กลายเป็นเมฆ ควบแน่น มีมวลอากาศสูง ต่ำ มาร่วมเป็นตัวแปร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ที่สุดเราก็เห็น “สายฝน”
สัจธรรมของฝน ทุกเม็ดร่วงสู่ผืนดินหมด ไม่มียกเว้น เพียงแต่จะช้าก็เร็วกว่ากันก็เท่านั้น บ้างตกบนถนน บ้างบนต้นไม้ บ้างตกบนหลังคาบ้าน บ้างตกบนสนามฟุตบอล สุดท้ายฝนเม็ดงามก็เป็นเพียงโคลนขุ่นๆ
ก็เพราะโคลนขุ่นๆ ที่ทำให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ ต้นไม้เติบโต ควายมีหญ้ากิน นกเอี้ยงได้เป็นเพื่อนกับควาย แถมมีโปรโมชั่นได้กินหนอนกินแมลงฟรี โดยไม่ต้องบินไปไหนให้ล้าปีก
บางที่สิ่งไร้ค่า ช่วยสรรสร้างโลกได้มากกว่า สิ่งที่มีค่า
ที่สุดชีวิต ก็เป็นเหมือน ฝน จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องอยู่กับดิน แตกต่างตรงที่ ทำให้ชีวิตจบสวยได้ แม้แต่เลือกจบไม่สวยแต่ก็ยังสวย มีคุณค่าต่อชีวิตคนอื่น
…ผมยืนพิจารณาฝนที่เดิมยังไม่ไปไหน แต่ชีวิตเดินก้าวไปหนึ่งก้าวก็เพราะ
บทเรียนจาก “สายฝน”